Current Situations, Desirable Situations and Guidelines for Developing Relationship between Schools and Communities of Secondary Schools in Bueng kan Province
Main Article Content
Abstract
The purposes of this research were 1) to study current situations and desirable situations and guideline for developing relationship between schools and communities of secondary schools; 2) to study needs, relationships between schools and communities of secondary schools; and 3) to develop guidelines for creating relationships between schools and communities of secondary schools at Bueng Kan province. The Samples were 210 school administrators, Chief stead of general administration section, head of academic section, Head of Personnel Management Group, community relations works for School board followed Krejcie & Morgan's table in the sample-size specification, and they were selected by Stratified Random Sampling. There were 4 instruments used in this research: (1) checklist is the position information of respondents with the index of item objective congruence (IC) between 0.60-1.00, the discrimination between 0.25-0.59, and the reliability of 0.84 ;
(2) a questionnaire in current situations, desirable situations and guidelines for developing relationship between schools and communities of secondary schools in Bueng Kkan province with the index of item objective congruence (IC) between 0.60-1.00, the discrimination between 0.27-0.69, and the reliability of 0.91 ; 3) a structured-interview form ; and (4) a suitability and possibility assessment form guideline for developing relationship between schools and communities of secondary schools in Bueng Kan province. The statistics employed were percentage, mean, standard deviation, and the index modified priority needs index (PNI modified
The results were as follows: (1) overall current situations of relationship between school and community were at the high level, and overall current situations of relationship between school and community were at the highest level. (2) The needs that have the highest mean are community service. (3) And the guidelines for developing relationship between schools and communities of secondary schools were at the high level and the possibility wat at the highest level.
Downloads
Article Details
References
เกรียงไกร สุพรรณ และคณะ. (2561). รูปแบบการบริหารการประชาสัมพันธ์ในสถานศึกษา เอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารการวิจัยการบริหารการพัฒนา ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 สาขาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ. (มกราคม-มิถุนายน 2561)
ขวัญใจ พุ้มโอ. (2562). รูปแบบการบริหารงานเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 6. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขา วิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยานอร์ทกรุงเทพ.
ชนกพร มนัส. (2559). ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารแบบมีส่วนร่วมกับประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดปทุมธานี.
วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
ชูชาติ พ่วงสมจิตร์. (2560). การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน. วารสารฉบับ ภาษาไทยสาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์และศิลปะ; ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2560.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น พิมพ์ครั้งที่ 9, กรุงเทพ: สุวีริยาสาส์น.
ประสิทธิ์ เผยกลิ่น (2555). รูปแบบการบริหารงานด้านความสัมพันธ์กับชุมชน สำหรับสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสาร, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
ปราโมช ยังภู่ (2557). สิทธิและบทบาทชุมชนในการบริหารจัดการงานท้องถิ่นในเขตจังหวัดราชบุรีวิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการด จัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
ปรีชา คัมภีรปกรณ์ และคณะ. (2553). ความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนในประเทศไทยเอกสารการสอนชุดวิชาโรงเรียนกับชุมชน หน่วยที่ 17. พิมพ์ครั้งที่ 14. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
พนิจดา วีระชาติ. (2542). การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
วริศรา สุขสุวรรณ. (2560). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำทางวิชาการกับประสิทธิผลของโรงเรียน มัธยมศึกษาขนาดเล็ก จังหวัดตราด สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 17.
วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา.
วิภาณี แม้นอินทร์. (2559). มวลชนสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ศุภรัตน์ ปุ้งข้อ. (2557). สภาพการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาในกลุ่มเครือข่ายเขาฉกรรจ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษาสระแก้ว เขต 1. วิทยานิพนธ์หลักสูตรศึกษามหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษามหาวิทยาลัยบูรพา.
สมพงษ์ ศรีมหาไชย. (2556). ศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนวัดโสภณกับโรงเรียนบ้านมาบตาพุด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 1. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี,แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12, และการปฏิรูปเทศ. กรุงเทพฯ. สืบค้น15 มีนาคม 2563, จาก http://www.nesdb.go.th/ewt_news.php?nid=6420
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2557). สรุปบทเรียนที่ดีของการดำเนินการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารราชการ. พิมพ์ครั้งที่ 1, สำนักงาน.
ก.พ.ร. สำนักวิชาการ, สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ: สำนักการพิมพ์.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2550). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น, พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: คณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
โสภา เหล่าตระกลู สวัสดิ์. (2559). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนและชุมชนตามความคิดเห็นของผู้ปกครองโรงเรียนเมืองพัทยา 1 สังกัดสำนักการศึกษาเมืองพัทยาจังหวัดชลบุรี.
งานนิพนธ์หลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา.
อัชราพร สังยวน, (2558), การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนากองทุนหลักประกัน สุขภาพเทศบาลตำบลกุดสิม อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตร์ สกลนคระมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
Krejcie, R.V., & Morgan, D.W. (1970). Determining sample size for research activities.
Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Stoops, E., & Rafferty, M.L. (1961). Practice andtrends in schooladministration. New York:Ginn.