The Comparisons of English reading comprehension abilities between Using DR-TA Learning Approaches and KWL Plus Learning Approaches for Matthayomsuksa 2 Students
Main Article Content
Abstract
The purposes of this study were: (1) to develop plans for learning organization using DR-TA learning approaches and KWL-Plus learning approaches for Matthayomsuksa 2 Students level with a required efficiency of 75/75, (2) to find out effectiveness indices of those plans
for learning organization, and (3) to compare reading comprehension of Matthayomsuksa 2
students, between who learned using the two different approaches. The instruments used
in the study were: (1) plans for organization of learning activities using of the two mentioned
approaches, 3 hours per each plan, for a total of 15 hours of each approach; (2) a 30-item reading comprehension test. They were divided into 2 groups: an experiment group of 43 students taught using DR-TA learning approaches, and control group of 43 students taught using KWL-Plus learning approaches attending in the first semester of the academic year 2021 at Phadungnaree school, Mueang district, Mahasarakham Province. They were selected by the cluster random sampling technique. The statistics used for analyzing data were mean,standard deviation, percentage, and T-test (Independent sample) was employed for testing the hypotheses.
The results of the study were as follows:
1. The plans for learning organization using DR-TA Learning approaches and KWL Plus Learning approaches for Matthayomsuksa 2 Students level had efficiencies (E1/E2) of 75.72/78.06 and 75.79/84.57 respectively, which were higher than the established requirement.
2. The plans for learning organization of using DR-TA Learning approaches and KWL Plus Learning approaches had the effectiveness indices of 0.57 and 0.72 respectively. This shows that the percentage of students’ academic achievement is 78.06 and 84.57.
3. The students who learned by using KWL Plus Learning approaches showed higher in English reading comprehension than the counterpart, at the level of significance.05
Downloads
Article Details
References
กรมวิชาการ. (2561). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. 2560). กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
เขมรัศมี สุบันนารถ. (2555). การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ การคิดวิเคราะห์และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นสมองเป็นฐานกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ KML Plus. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
จันทิมา โพธิ์รัตน์. (2552). การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน. การศึกษาค้นคว้าอิสระปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
จุไรวรรณ เสาสูงยาง. (2553). การเปรียบเทียบความสามารถ้านการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้สมองเป็นฐานกับแบบ 4 MAT. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ณัฐธิดา กลางประชา. (2555). การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 โดยใช้การสอนอ่านแบบ Directed Reading-Thinking Activity (DR-TA). วารสารศึกษาศาสตร์ ฉบับวิจัยบัณฑิตศึกษา, 37(1), 53-59.
ทรรศนีย์ แก้วนก. (2556). ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค KWLH-Plus ร่วมกับนิทานพื้นบ้านที่มีต่อการอ่านเพื่อความเข้าใจ และการเขียนสรุปความภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยทักษิณ.
บุญยวีร์ สิมมา. (2556). การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน (BBL). การศึกษาค้นคว้าอิสระปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ปิยาภรณ์ โคตรชมพู. (2555). การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยกลวิธีการสอนอ่าน แบบ DR-TA สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษสำหรับผู้พูดภาษาอื่น บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
พัชรินทร์ แจ่มจำรูญ. (2547). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านจับใจความของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการสอนอ่านแบบปฎิสัมพันธ์ด้วยวิธี KWL-Plus กับวิธีสอนอ่านแบบปกติ. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
โรงเรียนผดุงนารี. (2562). รายงานประจำปีการศึกษา 2562. มหาสารคาม: ฝ่ายวิชาการ โรงเรียนผดุงนารี. วัชรา เล่าเรียนดี. (2554). เทคนิคการสอน. นครปฐม: ภาควิชาหลักสูตรวิธีสอน มหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์.
สมศักดิ์ ภู่วภิ าดาวรรธน์. (2554). การยึดผู้เรียนเปน็ ศนู ย์กลางและการประเมินตามสภาพจริง. กรุงเทพฯ: ดวงกมลพับลิชชิ่ง.
สมุทร เซ็นเชาวนิช. (2551). เทคนิคการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สุวดี ภู่ประดิษฐ์. (2546). การอ่านในระดับอุดมศึกษา. กรุงเทพฯ: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
อุดร วิชัยวงษ์. (2552). ผลการพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยกลวิธี DR-TA. การค้นคว้าอิสระปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
Anderson, N. (1999). Exploring Second Language Reading: Issues and strategies. Canada: Heinle and Heinle.
Carr, E. and Ogle, D. (1987). K-W-L Plus: A Strategies for Comprehension and Summarization. Journal of Reading, 30(4), 626-631.
Conner, J. (2004). Instructional Reading Strategies: KWL (Know, Want to Know Learn). [Online]. Available from: http://www.indiana.edu/~l517/KWL.htm. [accessed8 June 2020].
Ruddell, M.R. (2005). Teaching content reading and writing. 4th ed. New Jersey: John Wiley & Sons.
Tierney, R.J., John, E.R. and Ernet, K.D. (1995). Reading Strategies and Practices. 3rd ed. Massachusetts: Allyn and Bacon.