ปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาระดับของปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 33 ได้แก่ ปัจจัยด้านภาวะผู้นำ ปัจจัยด้านโครงสร้างองค์การ ปัจจัยด้านเทคโนโลยี ปัจจัยด้านการติดต่อสื่อสาร และปัจจัยด้านความผูกพันต่อองค์การ 2) เพื่อศึกษาระดับการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 33 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านภาวะผู้นำ ปัจจัยด้านโครงสร้างองค์การ ปัจจัยด้านเทคโนโลยี ปัจจัยด้านการติดต่อสื่อสาร และปัจจัยด้านความผูกพันต่อองค์การกับการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 33 และ 4) เพื่อสร้างสมการการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 33 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารและครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33 จำนวน 458 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .20 - .93 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .97 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบเป็นขั้นตอน (Stepwise Method)
ผลการวิจัยพบว่า 1. ปัจจัยด้านภาวะผู้นำ (X1) ปัจจัยด้านโครงสร้างองค์การ (X2) ปัจจัยด้านเทคโนโลยี (X3) ปัจจัยด้านการติดต่อสื่อสาร (X4) และปัจจัยด้านความผูกพันต่อองค์การ (X5) โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 2. การดำเนินงานการประกันคุณภาพภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา (Y ) สังกัดสำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต33 พบว่า ผู้บริหารและครูผู้สอนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33 มีการดำ เนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 3. ปัจจัยด้านภาวะผู้นำ (X1) ปัจจัยด้านโครงสร้างองค์การ (X2) ปัจจัยด้านเทคโนโลยี (X3) ปัจจัยด้านการติดต่อสื่อสาร (X4) และปัจจัยด้านความผูกพันต่อองค์การ(X5) มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา (Y)อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ .640 .628 .597.666 .706 ตามลำดับ 4. ตัวแปรที่สามารถพยากรณ์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33 มีค่าสัมประสิทธิ์ สหสัมพันธ์เท่ากับ .778 มีนัยสำ คัญทางสถิติที่ระดับ .01 ค่าสัมประสิทธิ์การพยากรณ์ปรับปรุง (R2) เท่ากับ .605 มีความสามารถในการพยากรณ์ได้ร้อยละ 60.00 โดยเขียนเป็นสมการ ได้ดังนี้
สมการในรูปคะแนนดิบ
= 1.094 + .274 X5 + .150 X4 + .132 X2 + .111 X1 + .087 X3
สมการในรูปคะแนนมาตรฐาน
= .291 Z5 + .205 Z4 + .152 Z2 + .144 Z1 + .126 Z3
Downloads
Article Details
References
Cheng, Y.C. (1996). School Effectiveness and School-based Management: A Mechanic for Development. London: Palmer Press.
Jirapha Wichachan. (2007). Factors Affecting Implementation of Internal Quality Assurance Center of Department of Non-Formal Education Distric West. Master of Administration NakhonpaThom: Silpakorn University.
Jumras Nongmak. (2001). Practice of Educational Quality Assance. Bankok: Sunprinting.
Kittiphong Hatrongjit. (2007). Factors Affectings operations in Educational Quality Assance of College Under Office of Udon Education School Distric. Master of Administration Udon: UdonThani Rajabhat University.
Krejcie, R.V. and Morgan, D.W. (1970). “Determining sample size for research activitie,” Educational and Psychological Measurement, 30(3): 608 – 609
Ministry of education. (1999). Proceeding of Quality Assurance. Bankok: Teachers’ council Ladpao.
Ministry of education. (2009). The Secretariat Of The Teachers Council Of Thailand Education Reformation in decade by 2009-2018. Bankok: The Secretariat Of The Teachers Council Of Thailand.
Office of the National Education Commission. (2000). Proceeding of Internal Quality Assurance School for Prepared Exterior Quality Assance. Bankok: Pimdee.
Pathima Phudtandong. (2011). Factors Affectings Operations Success in Educational Quality Assance of School Office of the Vocational Education Commission in Kamphaeng Phet. Master of Administration Kamphaeng Phet: Kamphaeng Phet Rajabhat University.
Porter W., Lyman, Robert W. (2003). Allen and Harold L. Angle. Organizational Influence Processes. New York: M.E. Sharpe.